เครื่องปรับอากาศเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีปริมาณการกินไฟสูงมาก ดังนั้นการเลือกซื้อเครื่องปรับอากาศสักเครื่อง จึงจะเลือกเพราะราคาถูกไม่ได้ แต่จะต้องเลือกขนาดที่เหมาะกับห้อง และพิจารณาจากปัจจัยอื่น ๆ ร่วมด้วย ซึ่งจะช่วยป้องกันค่าไฟบานปลายได้ดีที่สุด
ขนาด BTU ที่เหมาะสม ขนาด BTU ที่เหมาะสม ขนาด BTU ก็คือขนาดทำความเย็นของเครื่องปรับอากาศ โดย 1 ตันความเย็น = 12000 BTU ต่อชั่วโมง การเลือกเครื่องปรับอากาศที่มี BTU สูงหรือต่ำเกินไป จะทำให้เครื่องปรับอากาศเสียได้ง่ายและเปลืองไฟ โดยการคำนวณ BTU ให้เหมาะกับขนาดของห้อง ก็คือ BTU = พื้นที่ห้อง (กว้างXยาว) X ความแตกต่าง (ห้องที่มีความร้อนน้อยใช้เฉพาะในเวลากลางคืน 600-700 และ ห้องที่มีความร้อนสูงใช้เวลากลางวันมาก 700-800) ทั้งนี้สามารถบวกลบได้อีก 5% ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่าง ๆ เช่น ขนาดห้องของหน้าต่างกับมุมต่าง ๆ ของห้อง , ทิศทางของห้องโดนแดดมากน้อยแค่ไหน , จำนวนบุคคลที่ใช้งานในห้อง และวัสดุกับหลังคามีฉนวนกันความร้อนภายในบ้านหรือไม่ โดยมีตัวอย่างของขนาด BTU ที่เหมาะสมกับแต่ละห้องคร่าว ๆ ดังนี้
-9000 BTU สำหรับห้องโดนแดดขนาด 11-14 ตารางเมตร และ ห้องปกติขนาด 12-15 ตารางเมตร -12,000 BTU สำหรับห้องโดนแดดขนาด 14-18 ตารางเมตร และ ห้องปกติขนาด 16-20 ตารางเมตร -18,000 BTU สำหรับห้องโดนแดดขนาด 21-27 ตารางเมตร และ ห้องปกติขนาด 24-30 ตารางเมตร -21,000 BTU สำหรับห้องโดนแดดขนาด 25-32 ตารางเมตร และ ห้องปกติขนาด 28-35 ตารางเมตร -24,000 BTU สำหรับห้องโดนแดดขนาด 28-36 ตารางเมตร และ ห้องปกติขนาด 32-40 ตารางเมตร -25,000 BTU สำหรับห้องโดนแดดขนาด 30-39 ตารางเมตร และ ห้องปกติขนาด 35-44 ตารางเมตร -30,000 BTU สำหรับห้องโดนแดดขนาด 35-45 ตารางเมตร และ ห้องปกติขนาด 40-50 ตารางเมตร -35,000 BTU สำหรับห้องโดนแดดขนาด 42-54 ตารางเมตร และ ห้องปกติขนาด 48-60 ตารางเมตร -48,000 BTU สำหรับห้องโดนแดดขนาด 56-72 ตารางเมตร และ ห้องปกติขนาด 64-80 ตารางเมตร -80,000 BTU สำหรับห้องโดนแดดขนาด 70-90 ตารางเมตร และ ห้องปกติขนาด 80-100 ตารางเมตร
คอมเพรสเซอร์แอร์
คอมเพรสเซอร์มีอยู่ด้วยกัน 3 ชนิด คือ คอมเพรสเซอร์ลูกสูบ (Reciprocating Compressor) ให้กำลังแรงสูง แต่มีความสั่นสะเทือนสูง เสียงค่อนข้างดัง นิยมใช้ในเครื่องปรับอากาศขนาดใหญ่ , คอมเพรสเซอร์โรตารี่ (Rotary Compressor) มีความสั่นสะเทือนน้อย เสียงเงียบ เหมาะสำหรับเครื่องปรับอากาศขนาดเล็ก และคอมเพรสเซอร์แบบขด (Scroll Compressor) มีความสั่นสะเทือนน้อยมาก เสียงเงียบ ให้พลังงานสูง เป็นคอมเพรสเซอร์ที่ดีกว่าชนิดอื่น ๆ ในระดับเดียวกัน ซึ่งในการเลือกคอมเพรสเซอร์ควรเลือกให้เหมาะสมกับการใช้งาน
คอยล์เย็น
คอยล์เป็นอุปกรณ์สำหรับระบายและดูดซับความร้อนจากอากาศ หากเลือกคอยล์ที่มีคุณภาพดี เครื่องปรับอากาศก็จะมีอายุการใช้งานที่นานขึ้น ดังนั้นก่อนการเลือกซื้อให้พิจารณาวัสดุที่ใช้ทำคอยล์ เช่น สารที่เคลือบป้องกันการกัดกร่อนหรือความหนาของครีบ เป็นต้น
มอเตอร์พัดลมแอร์
มอเตอร์พัดลมเป็นส่วนสำคัญในเครื่องปรับอากาศที่จะช่วยระบายและดูดซับความร้อน จึงควรเลือกมอเตอร์พัดลมที่ใช้ขดลวดที่ทนความร้อนได้สูง เพื่อให้รอบการทำงานของมอเตอร์ไม่สะดุด และไม่เสื่อมคุณภาพได้ง่าย
ระบบฟอกอากาศภายใน
ระบบฟอกอากาศจะช่วยในการหมุนเวียนให้อากาศภายในห้องสะอาดบริสุทธิ์มากขึ้น โดยแบ่งออกเป็นระบบดังนี้ การกรอง (Filtration) การใช้แผ่นกรองอากาศดักจับฝุ่นละอองเอาไว้ ควรเลือกแผ่นกรองที่เป็นคาร์บอน เพื่อดูดซับกลิ่นไม่พึงประสงค์ต่าง ๆ , การดักจับด้วยไฟฟ้าสถิต (Electrostatic Precipitator) การดักจับฝุ่นละอองในอากาศด้วยการใช้ตะแกรงไฟฟ้ากับใช้แผ่นโลหะอีกชุดเรียงขนานกัน เพื่อดูดฝุ่นละอองเอาไว้ และการปล่อยประจุไฟฟ้า (Ionizer) การผลิตประจุไฟฟ้าประจุลบเพื่อปล่อยออกมาพร้อมกับลมเย็น เพื่อดักจับฝุ่นละอองที่เป็นประจุบวก ซึ่งฝุ่นละอองที่ถูกดักจับจะรวมตัวกันและร่วงหล่นมาบนพื้นห้อง นอกจากนี้การเลือกซื้อเครื่องปรับอากาศ ควรพิจารณาถึงการประหยัดไฟ โดยเครื่องปรับอากาศที่มีฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 จะเป็นเครื่องปรับอากาศที่มีประสิทธิภาพในการให้พลังงานสูงและประหยัดไฟฟ้า จึงควรศึกษาฉลากประหยัดไฟให้ดีก่อนที่จะตัดสินซื้อ